คุณสมบัติของกรรมการแพทยสภา : ร่างกฎหมายจาก สมัชชาแพทย์ปฏิรูป
สิ่งที่จะ ไม่เกิดขึ้น หากยังอยู่ภายใต้ร่างกฎหมายจากกรรมการ 70 คน
ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา จุดอ่อนของโครงสร้างแพทยสภาได้ปรากฏให้เห็นชัดเจน และนี่คือสิ่งที่ สมัชชาแพทย์ปฏิรูป เสนอเพื่อแก้ไขอย่างตรงจุด
1. จำนวนกรรมการมากเกินไป และอาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนกรรมการโดยตำแหน่ง คูณ สอง
ปัจจุบันมีกรรมการ 70 คน แบ่งเป็น “เลือกตั้ง” และ “โดยตำแหน่ง” ซึ่งใหญ่เทอะทะเกินไป เราเสนอให้ลดเหลือเพียง 40 คน(fixed) เพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง
2. กรรมการโดยตำแหน่ง ไร้คุณสมบัติขั้นต่ำ
ไม่มีการกำหนดคุณสมบัติที่ชัดเจน ตัวอย่างในชุดปัจจุบันก็มี “กรรมการที่ไม่ใช่แพทย์” แต่เป็นคณบดีมหาวิทยาลัยที่กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้
เช่น คณบดีสำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ ม.วลัยลักษณ์ ก็ไม่ใช่แพทย์ และเราขอยกตัวอย่างล่าสุด นายแพทย์ใหญ่กรมตำรวจ ที่ถูกพักใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม 3 เดือน ถ้าตีความตามกฎหมายเก่า จะถือว่าไม่ได้ขาดคุณสมบัติ และยังมีสิทธิ์เข้าประชุมกรรมการแพทยสภาได้ด้วยซ้ำ เพราะไม่เคยมีการระบุคุณสมบัติของกรรมการโดยตำแหน่ง มาก่อนเลย
3. อิทธิพลจากภาคเอกชน
กรรมการโดยตำแหน่งบางคนมาจากคณะแพทย์ม.เอกชน ซึ่งย่อมมี “ธุรกิจเป็นตัวตั้ง” แตกต่างจากมหาวิทยาลัยของรัฐ เมื่อมีสิทธิตัดสินใจอนุมัติหลักสูตร ความเสี่ยงต่อ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” จึงเกิดขึ้นทันที แต่ก็ต้องยอมรับเพราะเป็นไปตามกฎหมาย ท่านอาจจะอ้างว่า เมื่อถึงหัวข้อการพิจารณา ท่านก็ เดินออกจากที่ประชุม หลังจาก Declaration of Conflict of Interest แล้ว กรรมการ ที่เหลือมีมติให้ท่านออกจากจากการประชุมครั้งนั้น แต่ ใครจะรู้ กรรมการก็เพื่อนกันทั้งนั้น มันควรมีกฎระเบียบ โดยไม่ต้องใช้มติ จะดีกว่าไหม
4. กรรมการมีผลประโยชน์โดยตรงกับโรงพยาบาลเอกชน หลายคนถือหุ้น หรือเป็นกรรมการอิสระในเครือโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ ย่อมมีคำถามเรื่องความเป็นกลาง
5. ความเสี่ยงในคดีจริยธรรม
แพทย์เอกชนถูกฟ้องร้องมากกว่ารัฐ เพราะผู้ป่วยจ่ายเงินแล้วคาดหวังสูง เมื่อกรรมการที่ต้องวินิจฉัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน ความน่าเชื่อถือย่อมถูกตั้งคำถาม
6. นายกแพทยสภาก็อาจอยู่ในเครือข่ายเอกชน
หากนายกฯ หรือผู้บริหารแพทยสภามีตำแหน่งในเครือโรงพยาบาลเอกชน การแต่งตั้งอนุกรรมการจริยธรรมย่อมเต็มไปด้วยข้อสงสัย เวลาหมอโรงพยาบาลเอกชนในเครือข่ายใหญ่ๆ ถูกฟ้อง เค้าอุ่นใจได้ว่ามี Backup ระดับบิ๊กในแพทยสภา แล้วชาวบ้านก็วังเวงสิครับ คราวนี้ ยิ่งตำแหน่งสำคัญ ในทางบริหาร ยิ่ง ต้องมีคุณสมบัติ เข้มงวด กว่าตำแหน่งอื่นด้วยซ้ำ
7. ผู้ร้องเรียนกลายเป็นศัตรู
แทนที่จะได้รับความเป็นธรรม ผู้ร้องเรียนกลับถูกมองว่า “เป็นไม้เบื่อไม้เมา” กับแพทยสภา สร้างบาดแผลความไม่ไว้วางใจต่อเนื่องมาหลายสิบปี หากมีใครเสนอ เปลี่ยนแปลง กฎหมาย หรือ เพิ่มความโปร่งใส โดยประการใดจะถูก ป้ายสีว่าเป็นฝ่าย คู่แค้นของแพทยสภาทันที รวมทั้งสิ่งที่ เพจของเราและสมัชชาแพทย์ปฏิรูปกำลังทำนี้ด้วยเช่นกัน
---
ทางออกของ สมัชชาแพทย์ปฏิรูป
1.ร่างกฎหมายฉบับใหม่กำหนด คุณสมบัติชัดเจน ของกรรมการ ทั้งโดยตำแหน่งและเลือกตั้ง สมัชชาแพทย์ปฏิรูปขอยืนยันว่า คุณสมบัติเบื้องต้น ต้องเป็นสมาชิกแพทยสภา เท่านั้น จึงตัดปัญหา ผู้ไม่ใช่แพทย์จะมาเป็นกรรมการ แต่เราจะเพิ่ม ข้อความในมาตรา หมวดคุณสมบัติกรรมการ โดยเฉพาะ ประเด็นที่มีความเสี่ยงต่อผลประโยชน์ทับซ้อน บางเรื่องต้องห้ามเด็ดขาด บางเรื่องต้องมีการประกาศ ถ้าสมัครรับเลือกตั้ง
2.ทุกคนต้องมีมาตรฐานคุณสมบัติแบบเดียวกัน เพื่อปิดช่องโหว่ผลประโยชน์ทับซ้อน ดังนั้น ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ ต้องมีการ Declare เรื่องนี้ ในข้อความ เผยแพร่ โดยกำหนดเป็นหัวข้อ ที่ชัดเจน คือการมีหุ้น ไม่ต่ำกว่า 1% หรือเป็นกรรมการหรือเป็นกรรมการอิสระ ในโรงพยาบาล เอกชน หรือ สถาบัน ที่เกี่ยวข้องในการ รับการอนุมัติหลักสูตร โดยแพทยสภา
3. กรรมการโดยตำแหน่ง ในกฎหมายฉบับใหม่ของพวกเรา ก็จำเป็นต้องมีคุณสมบัติ เช่นเดียวกัน พื้นฐานคือต้องเป็นสมาชิกแพทยสภา แต่ในแง่จริยธรรมจำเป็นจะต้อง สูงสุดคือไม่เคยถูกพักใบประกอบวิชาชีพ หรือเคยถูกลงโทษทางจริยธรรม ใดๆทั้งสิ้น และ ในประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน เช่นเดียวกัน บางเรื่องต้องห้ามอย่างเด็ดขาด ส่วนบางเรื่อง ต้องมีประกาศ ก่อนกระบวนการคัดเลือก (เพราะต่อไป จะจำกัดจำนวนให้เหลือ 20 คน)
4 ลดจำนวนกรรมการให้เหมาะสม ทำงานได้จริง ไม่ใช่เวทีที่เต็มไปด้วย “ผู้มีส่วนได้เสีย” และ แนวทางการปฏิบัติต้องชัดเจน โดยมีกฎ และระเบียบ การประชุม ไม่ต้องขึ้นกับการลงมติ รับรองให้อยู่ประชุมต่อ หรือให้ออกจากการประชุม โดยกรรมการที่เหลือ เพราะเรื่องนี้ล็อบบี้ได้ไม่ยาก ที่ดีที่สุดคือไม่ต้องพึ่งพาการลงมติ ให้เดินออก
---
แนวทางปฏิบัติที่มีความโปร่งใส ขจัดผลประโยชน์ทับซ้อนได้สูงสุดเช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้น ในร่างกฎหมายของกรรมการ 70 คนแน่นอน เพราะหลายคนเองก็คือ “ผู้มีส่วนได้เสีย” โดยตรง
---
แอดมิน ประชาคมแพทย์
ผู้ประสานงาน สมัชชาแพทย์ปฏิรูป
14 กย.2568
#คุณสมบัติของกรรมการแพทยสภา
#ประชาคมแพทย์ #สมัชชาแพทย์ปฏิรูป #ReformTMC #โปร่งใสตรวจสอบได้

เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด